วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556
กลุ่มเรียน102 วันพฤหัสบดี เวลา 15.00-17.30น.
เนื้อหาที่เรียน
-อาจารย์ศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนองาน ดังนี้
1.เด็กการเรียนรู้บกพร่อง
1.เด็กการเรียนรู้บกพร่อง
LD (Learning Disabilities) คือความบกพร่องในการเรียนรู้ในเด็กที่มีสติปัญญาฉลาดในเกณฑ์ปกติหรือฉลาดเหนือกว่าเด็กอื่น แต่การเรียนรู้ในด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายๆ ด้านช้ากว่าเพื่อนที่มีอายุเท่ากัน ทั้งๆ ที่เพื่อนอาจมี สติปัญญาเท่ากันหรือต่ำกว่า การบกพร่องในการเรียนรู้ มิได้เกิดจากความเกียจคร้าน การขาดเรียน มีความพิการ หรือปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งโรคนี้พบในเด็กวัยเรียได้ถึงร้อยละ 7 2.เด็กสมองพิการสมองพิการ(Cerebral Palsy) หรือคำย่อที่นิยมเรียก คือ ซี พี (C.P.) ไม่ใช่เป็นโรคเฉพาะ แต่เป็นคำรวมของกลุ่มอาการของผู้ป่วยเด็กที่มีความพิการอย่างถาวรของสมอง ความพิการนี้จะคงที่และไม่ลุกลามต่อไป ซึ่งมีผลให้การประสานงานของการทำงานของกล้ามเนื้อบกพร่อง ส่งผลให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและการทรงท่าที่ผิดปกติ เช่น การเกร็งของใบหน้า ลิ้น ลำตัว แขน ขา การทรงตัว การทรงท่าในขณะนั่ง ยืน เดิน ผิดปกติหรืออาจเดินไม่ได้ นอกจากนี้ อาจมีความผิดปกติในการทำงานของสมองด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีความบกพร่องในการมองเห็น ได้ยิน การรับรู้ การเรียนรู้ สติปัญญา และโรคลมชัก เป็นต้น 3.เด็กสมาธิสั้น โรคสมาธิสั้นคือ กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก (ก่อนอายุ 7 ขวบ) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเรียน และการเข้าสังคมกับผู้อื่นของเด็ก กลุ่มอาการนี้ได้แก่ ขาดสมาธิ (attention deficit), การขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง (impulsivity), อาการซน (hyperactivity) เด็กบางคนอาจจะมีอาการซนและการขาดความสามารถในการควบคุมตัวเองเป็นอาการหลัก ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กผู้ชาย หรือบางคนอาจจะมีอาการขาดสมาธิเป็นปัญหาหลัก พบได้บ่อยพอ ๆ กันในเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย โรคสมาธิสั้นนี้พบได้บ่อยในทุกประเทศทั่วโลก ในต่างประเทศพบว่าประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ของเด็กในวัยเรียน เป็นโรคสมาธิสั้น 4.เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กดาวน์ หรือเด็กกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม เป็นเด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อน ซึ่งมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม เพราะความผิดปกติของโครโมโซม โครโมโซม จะมีอยู่ในเซลร่างกายมนุษย์ แต่ละคนจะมีโครโมโซม 23 คู่ หรือ 46 แท่ง มีหน้าที่แสดงลักษณะของคนๆนั้นออกมา เช่น ผมสีดำ ตัวเตี้ย ตัวสูง เพศชาย เพศหญิง และถ่ายทอดลักษณะเหล่านั้นออกมาให้ลูกหลาน โดยจะได้จากบิดา 23 แท่ง มารดา 23 แท่ง รูปที่ 1 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 2 ปี รูปที่ 2 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 3 ปี รูปที่ 3 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 3 ปี ครึ่ง รูปที่ 4 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 4 ปี รูปที่ 5 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 5 ปี รูปที่ 6 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 6 ปี รูปที่ 7 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 7 ปี รูปที่ 8 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 8 ปี รูปที่ 9 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 9 ปี รูปที่ 9 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 10 ปี รูปที่ 10 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 11 ปี รูปที่ 11 เป็นความสามารถของเด็กอายุ 12 ปี |
การนำสิ่งที่ได้รับไปปรับใช้
-ได้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม การนำเสนอหน้าชั้นเรียนและได้รับความรู้ที่เกี่ยวกับเด็กพิเศษ เพื่อนำไปใช้ในอนาคตเมื่อเวลาฝึกสอนหรือตอนได้เป็นคุณครูแล้วเจอเด็กพิเศษจะได้นำความรู้ไปใช้ได้อย่างเหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น